สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัด มหาสารคาม
สวัสดีค่ะ เจอกันอีกแล้ววันนี้จะมาเ่า สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดมหาสารคาม เมื่อได้มาเรียนแล้ว ใครๆก็คิดว่า มหาสารคามเป็นจังหวัดที่เล็กๆ ไม่มีอะไรน่าเที่ยว แต่ก็จริงว่าเป็นจังหวัดเล็ก ที่เที่ยวไม่ค่อยมี วันนี้เราไปเที่ยวมา จะมาแนะนำว่ามาเรียนควรจะไปไหนดี อิอิ ไปชมกันเลยยยยย
1. พระธาตุนาดูน อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม
พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองชาว มหาสารคาม มายาว นานกว่า 150 ปี คนที่มาเรียนที่มหาสารคามแล้วทุกคนต้องไปกราบไหว้ขอพร เพื่อศิริมงคล ในการเรียน
พุทธมณฑลแห่งอีสาน ตั้งอยู่ที่บ้านนาดูน เขตอำเภอนาดูน เป็นเขตที่มีการขุดพบหลักฐานทางประวัติศาสตร์ โบราณคดีที่แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองในอดีต เพราะบริเวณนี้ได้เคยเป็นที่ตั้งของนครจำปาศรีมาก่อน โบราณวัตถุต่างๆ ที่ค้นพบได้นำไปแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจังหวัดขอนแก่น และที่สำคัญยิ่งก็คือการขุดพบสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุบรรจุในตลับทองคำ เงิน และสำริด ซึ่งสันนิษฐานว่ามีอายุอยู่ในพุทธศตวรรษที่ 13-15 สมัยทวาราวดี รัฐบาลจึงอนุมัติให้ดำเนินการก่อสร้างพระธาตุนาดูนขึ้นในเนื้อที่ 902 ไร่ โดยบริเวณรอบๆ จะมีพิพิธภัณฑ์ทางศาสนาและวัฒนธรรม สวนรุกขชาติ สวนสมุนไพร ซึ่งตกแต่งให้เป็นสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนา
การเดินทางจากตัวเมืองมหาสารคาม โดยใช้เส้นทางหมายเลข 2040 ผ่านอำเภอแกดำ อำเภอวาปีปทุม แล้วเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2045 ถึงอำเภอนาดูน ทางลาดยางตลอด ห่างจากตัวเมืองประมาณ 65 กิโลเมตร
2. วัดพระยืน (วัดหลวงพ่อพระยืน)
พระคู่อำเภอกันทรวิชัย ซึ่งเป็นอำเภอที่ตั้งของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม เด็กที่เข้ามาศึกษาต่อที่นี้ต้องมากราบไหว้ขอพร และเป็นสิ่งศักธิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านนับถือ
พระพุทธมงคล(วัดบ้านสระ) เป็นพระพุทธรูปทรงอานุภาพศักดิ์สิทธิ์ เป็นปูชนียะวัตถุที่ควรแก่การเคารพสักการบูชายิ่ง แต่ชาวบ้านทั่วไปนิยมเรียกว่า "หลวงพ่อพระยืน" เป็นพระพุทธรูปที่พึ่งทางใจของชาวพุทธ เป็นที่เคารพบูชาของชาวมหาสารคามและพุทธศาสนิกชนทั่วไป
พระพุทธรูปองค์นี้เป็นปางสรงน้ำ มีความสูงตลอดองค์ 4 เมตร กว้าง 1 เมต สร้างด้วยศิลาแลง เป็นพระพุทธรูปที่นิยมสร้างในสมัยขอมก่อนยุคสุโขทัยพระพักตร์หันไปทางทิศใต้ เป็นพระพุทธรูปที่ท้าวลินทอง เจ้าครองเมืองคันธวิชัยในสมัยจุลศักราช 14(1328) สร้างขึ้นเพื่อทดแทนคุณบิดา(ท้าวลินจง) ถือเป็นปูชนียะวัตถุเก่าแก่ คู่บ้านเมืองตามประวัติที่หาได้จากใบเสมาที่ผังอยู่ใกล้พระยืน ได้รับประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณวัตถุสำคัญของชาติในปี 2478
ที่ตั้ง วัดบ้านสระ ต.คันธารราษฏร์ อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม
พระพุทธรูปองค์นี้เป็นปางสรงน้ำ มีความสูงตลอดองค์ 4 เมตร กว้าง 1 เมต สร้างด้วยศิลาแลง เป็นพระพุทธรูปที่นิยมสร้างในสมัยขอมก่อนยุคสุโขทัยพระพักตร์หันไปทางทิศใต้ เป็นพระพุทธรูปที่ท้าวลินทอง เจ้าครองเมืองคันธวิชัยในสมัยจุลศักราช 14(1328) สร้างขึ้นเพื่อทดแทนคุณบิดา(ท้าวลินจง) ถือเป็นปูชนียะวัตถุเก่าแก่ คู่บ้านเมืองตามประวัติที่หาได้จากใบเสมาที่ผังอยู่ใกล้พระยืน ได้รับประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณวัตถุสำคัญของชาติในปี 2478
ที่ตั้ง วัดบ้านสระ ต.คันธารราษฏร์ อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม
3. พิพิธภัณฑ์ มมส
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีความสำคัญมากมายหลายอย่าง เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีความมุ่งหมายเพื่อสื่อสารถึงอัตลักษณ์ของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม เป็นศูนย์กลางแห่งการพัฒนาองค์ความรู้ด้านพิพิธภัณฑ์เพื่อส่งเสริมให้สังคมได้รับผลประโยชน์จากกิจการพิธภัณฑ์ ทั้งในด้าน การปลูกจิตสำนึกแห่งคุณค่าและความสำคัญของท้องถิ่น การจัดการพิพิธภัณฑ์ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ที่ตอบสนองต่อความต้องการของสังคม อีกทั้งยังเป็นแหล่งสนับสนุนการจัดการเรียน การสอน การวิจัย และบริการวิชาการด้านพิพิธภัณฑ์ตลอดจนเป็นสถานที่สำหรับการพักผ่อนและจัดกิจกรรมสำหรับคณาจารย์ นิสิต และบุคคลทั่วไป
4. สะพานไม้แกดำ
ตั้งอยู่ที่วัดดาวดึง อำเภอแกดำ จังหวัดมหาสารคาม เป็นสะพานไม้เก่า อายุราวกว่า 50 ปี ที่ชาวบ้านใช้เป็นเส้นทางข้ามอ่างเก็บน้ำหนองแกดำ โดยเชื่อมระหว่างบ้านหัวขัวกับหมู่บ้านแกดำ แต่ก่อนสะพานไม้นี่ทรุดโทรมาก ชาวอำเภอแกดำพร้อมด้วยกำลังทหาร ช่วยกันซ่อมแซมสะพานไม้ โดยหวังให้ชาวบ้านได้ใช้ประโยชน์และอนุรักษ์ไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษา รวมถึงพัฒนาสะพานไม้เก่าแก่แห่งนี้ ให้เป็นสถานที่ถ่ายภาพและเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดมหาสารคาม
5. วังมัจฉา
อุทยานวังมัจฉาโขงกุดหวาย อยู่ในความดูแลของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืด เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เชิงชนบทโดยได้รับการประกาศเป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดมหาสารคามเมื่อปี 2540 เนื่องจากแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้มีฝูงปลาหลายร้อยชนิดที่มาจากแม่น้ำชีได้ทะลักเข้ามาอยู่ตั้งแต่ตัวเล็กๆ และส่วนมากจะเป็นปลาเผาะซึ่งเป็นปลาเนื้ออ่อน ต้นตระกูลของปลานี้จะอยู่ในแม่น้ำโขง ชาวบ้านส่วนใหญ่อนุรักษ์ไว้เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มาดูและศึกษาชนิดพันธุ์ปลาต่างๆเหล่านี้
นี้ก็เป็นเพียงแค่ส่วนนหนึ่งนะค่ะ ยังไม่หมด จังหวัดมหาสารคามมีความลึกลับ เราต้องลองไปค้นหาเอง รอให้ทุกๆคนได้มาสัมผัส แล้วเจอกันค่ะ บ๊ายบายยย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น